สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ศูนย์วิจัยยานยนต์เยอรมนีระบุประเทศจีนจะเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกภายในสิ้นปี 2563 ด้วยอานิสงส์จากการสนับสนุนการลงทุนของโรงงานเทสลาที่เซี่ยงไฮ้ ทั้งนี้ปี 2562 จีนมียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 1.2 ล้านคัน ศูนย์วิจัยยานยนต์ (CAR) ของเยอรมนี เผยแพร่รายงานการประเมินตลาด โดยระบุว่าจีนกำลังจะกลายเป็นตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกภายในสิ้นปี 2563 ขณะที่ศูนย์วิจัยยานยนต์ของเยอรมนี คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรปก็จะสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ปัจจัยเกื้อหนุนของตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าของจีน เกิดจากรถยนต์เทสลาของอีลอน มัสก์ ได้รับการสนับสนุนในประเทศจีน โดยเทสลาตั้งเป้าว่าจะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าตลอดระยะเวลา 50 ปีข้างหน้า ศูนย์วิจัยยานยนต์ เปิดเผยด้วยว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบและรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริด (PHEV) หรือรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อนร่วมกัน สามารถทำยอดจำหน่ายในยุโรปเกือบ 400,000 คัน ส่วนยอดจำหน่ายในจีนน้อยกว่ายุโรปเพียง 7,200 คัน เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกัน ขณะเดียวกันยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบของเทสลา (Tesla) ในจีนเติบโตขึ้นแบบ “ก้าวกระโดด” โดยโรงงานกิกะแฟคทอรี เทสลา เซี่ยงไฮ้ (Tesla Shanghai gigafactory) มีส่วนส่งเสริมยอดจำหน่ายเกือบ 50,000 คัน ในช่วงครึ่งแรกของปี และเนื่องจากยอดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศของยุโรปอยู่ในระดับสูง ทำให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ และรถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริดในยุโรป “เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ” “จีนและยุโรปมีความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวในการพัฒนายานยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้ก้าวหน้าระดับโลก” แถลงการณ์จากเฟอร์ดิแนนต์ […]